รีวิวการเรียนภาษาอังกฤษที่ดูไบ ไม่ต้องใช้ Statement
สมัครเรียนง่ายใช้แค่พาสปอร์ตและรูปถ่าย
​ทำงานได้ ถูกกฎหมาย

น้องๆคนไหนสนใจเรียนภาษาอังกฤษที่ดูไบบ้าง วันนี้พี่เอ็ม กู๊ดไทม์เอ็ดดูเคชั่น จะพาน้องๆไปทำความรู้จักกับ เมืองดูไบ และพาไปดูบรรยากาศของการเรียนภาษาอังกฤษของสถาบัน ES DUBAI กันครับ (บอกเลยว่า พี่ไปทดลองเรียนและใช้ชีวิตที่ดูไบด้วยตัวเองเลย เพื่อที่พี่จะมาบอกเล่าประสบการณ์ตรงให้น้องๆฟังแบบชัดเจนเลยครับ)

เมืองดูไบ เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นะครับ และถือได้ว่าเป็นเมืองท่าที่สำคัญแห่งหนึ่งบนโลก แถมมีอัตราการเจริญเติบโตของเมืองที่สูงมากๆๆ เป็นเมืองที่มีความสำคัญในด้านการท่องเที่ยว และมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลกมากมายที่ตั้งอยู่ที่นี่ ทำให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ และนักลงทุนต่างชาติมากมายให้เข้ามาท่องเที่ยวและลงทุนที่เมืองดูไบแห่งนี้ครับ ถือเป็นเมืองที่สามารถสร้างคอนเนคชันได้เป็นอย่างดี

และนี่เป็นอีกหนึ่งข้อสำคัญที่ทำไมพี่ถึงมาเรียนภาษาอังกฤษที่ดูไบครับ เพราะว่า ดูไบเป็นเมืองแห่งโอกาสและมีต่างชาติอาศัยอยู่มากกว่า 80% ทำให้ภาษาที่ใช้สื่อสารกันจะเป็นภาษาอังกฤษครับ และที่สำคัญ ระหว่างที่น้องๆมาเรียนที่ดูไบ น้องๆสามารถทำงานพาร์ทไทม์ได้อย่างถูกกฎหมายและไม่ต้องเสียภาษีด้วยครับ ทำให้น้องๆได้ฝึกภาษาอย่างเต็มที่ พี่เชื่อว่าตรงนี้ทักษะภาษาอังกฤษของน้องๆจะพัฒนาอย่างก้าวกระโดดแน่นอนครับ

ภาพบรรยากาศของเมืองดูไบครับน้องๆดูไบเป็นเมืองที่มีวิวดีมากๆเลยครับ^^

ในส่วนของการเรียนภาษาที่ดูไบ พี่ได้ไปเรียนที่สถาบัน ES DUBAI ครับน้องๆ ที่นี่เป็นสถาบันสอนภาษาอังกฤษที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของเมืองดูไบเลยก็ว่าได้ครับ สถาบันตั้งอยู่ที่ Jumeirah Lakes Tower (JLT) ใจกลางย่าน New Dubai ซึ่งเป็นย่านธุรกิจ มีห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ร้านอาหารต่างๆมากมายเลยครับ การเรียนการสอนที่นี่ค่อนข้างโอเคเลย คุณครูของสถาบันทุกคนผ่านการคัดเลือกอย่างดี เป็นเจ้าของภาษา (Native speaker) มาจากหลายประเทศเลยครับน้องๆ และต้องผ่านการทดสอบการสอนของสถาบันก่อนอีกด้วยครับ ทำให้น้องๆมั่นใจได้เลยว่า คุณภาพการเรียนการสอนของที่นี่ ดีไม่แพ้ใครแน่นอนครับ

โดยคอร์สเรียน General English ของที่ ES DUBAI แบ่งออกเป็น 2 แบบให้น้องเลือกลงเรียน ก็คือ
Semi intensive เรียน 1 คาบเรียน จะเป็นการเรียนทุกวันจันทร์-ศุกร์  วันละ 2.45 ชม. 
Intensive เรียน 2 คาบเรียน จะเป็นการเรียนทุกวันจันทร์-ศุกร์ วันละ 5.30 ชม. 
เวลาเรียนจะมีดังนี้ 
คาบเช้า     9.00 - 11.45 น. (เบรค 10.15-10.45 น.)
คาบเที่ยง  12.00 - 14.45 น. (เบรค 13.00-13.30 น.)
คาบบ่าย   15.00 - 17.45 น.  (เบรค 16.00-16.30 น.)

ทางโรงเรียนจะแบ่งห้องเรียนและจัดคาบเรียนให้น้องๆเองนะครับ ตามความสามารถทางภาษาของน้องๆแต่ละคน ซึ่งตรงนี้น้องๆจะต้องทำการสอบวัดระดับก่อนเดินทางไปดูไบ
​

ภาพบรรยากาศในห้องเรียนและตัวอย่างหนังสือเรียนของคลาสที่พี่สอบได้ครับ^^

ภาพบรรยากาศของสถาบัน ES DUBAI ครับน้องๆ น่าเรียนมากๆเลยครับ^^ มีโซนนั่งพักผ่อนเยอะมาก และมีคาเฟ่สำหรับทานอาหาร
​และเครื่องดื่มทุกชั้นเลย

ในส่วนของหอพัก จะเป็นหอพักของทางสถาบันนะครับ หากน้องๆที่มาเรียนตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป น้องๆจะได้อยู่หอพักของสถาบัน 2 อาทิตย์นะครับ หลังจากนั้นน้องๆต้องหาหอนอกเพราะทางโรงเรียนอยากให้น้องได้หอพักที่อยู่ในทำเลที่เราชอบ แต่น้องๆไม่ต้องกังวลเลย หอหาได้ไม่ยาก เพราะทางสถาบันจะช่วยน้องๆสกรีนหอพัก และแนะนำให้ในวันปฐมนิเทศครับ สำหรับหอพักของสถาบันนั้น พี่บอกเลยว่าเหมือนอยู่โรงแรมเลยครับ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ห้องน้ำในตัว เตียงพร้อมชุดเครื่องนอน ตู้เสื้อผ้า โต๊ะหนังสือ พื้นที่ส่วนกลางก็จะมี ห้องครัว ห้องนั่งเล่น ฟิตเนส สระน้ำ โซนซักอบรีด ด้วยครับ
​

ภาพบรรยากาศหอพักและการปฐมนิเทศแนะนำหอพักนอกสถาบันครับ^^

การมาเรียนภาษาอังกฤษที่ดูไบ น้องๆสามารถทำงานพาร์ทไทม์ได้อย่างถูกกฎหมายและไม่ต้องเสียภาษีได้ด้วยนะครับ ซึ่งตรงนี้น้องๆจะสามารถฝึกภาษาได้อย่างเต็มที่ โดยทางสถาบันจะช่วยแนะนำงานที่เหมาะสมและมีการแนะนำการทำ resume ให้น้องๆอีกด้วยครับ น้องๆสามารถเลือกให้เหมาะสมกับตัวน้องๆได้เลย สามารถแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองได้ด้วยครับ ในระยะยาว หลังจากที่น้องๆเรียนจบจากทางสถาบันแล้ว หากน้องๆเลือกที่จะทำงานที่นี่ดูไบต่อ เป็นแบบ Full time น้องก็สามารถทำได้นะครับ และทางสถาบันจะช่วยน้องๆในการตรวจสอบสัญญาจ้างงานของน้องๆให้อีกด้วย ซึ่งพี่มองว่าตรงนี้เป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์การเรียนและการทำงานในต่างแดนได้เป็นอย่างดีเลยครับ อีกทั้งยังเป็นการสร้างคอนเนคชันกับต่างชาติที่ดีมากๆอีกด้วย น้องๆคนไหนอยากมาเก็บประสบการณ์และสร้างคอนเนคชัน ดูไบเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยเหมือนกันครับ 

สำหรับการทำงานในเมืองดูไบประเทศ UAE. นั้น ทางโรงเรียนจะมีเว็บไซต์ส่วนตัวสำหรับนักเรียนของเรา ในนั้นจะมีการประกาศรับสมัครงาน และมีงานให้น้องเลือกเยอะมากเราสามารถสมัครได้ตามความชอบเลย  โดยที่ทางโรงเรียนจะมีการสอนเขียนเรซูเม่ และมีการตรวจสอบเรซูเม่ให้นักเรียนก่อนที่จะสมัครงาน รวมไปถึงจะมีการสอนเทคนิคการสัมภาษณ์งานให้ด้วย   และหากน้องได้งานประจำแล้วก่อนที่จะเซนสัญญาเข้าทำงานและเปลี่ยนวีซ่าทำงานน้องสามารถนำสัญญาการทำงานมาให้ทางโรงเรียนตรวจสอบให้ก่อนที่น้องจะทำงานด้วยครับ  ดูแลนักเรียนดีมากกก
​

• โดยรายได้สำหรับงานพาร์ทไทม์จะอยู่ประมาณชั่วโมงละ 100-400 บาท ขึ้นอยู่กับงานและทักษะทางภาษาของน้องๆเองนะครับ ในช่วง high season (ตุลาคม-มีนาคม) จะเป็นช่วงที่มีงานเยอะครับ ค่าแรงจะประมาณ 100-450 บาทต่อชั่วโมงเลย

• สำหรับงานประเภท Full time หรืองานประจำ ถ้าหากน้องๆสมัครงานและได้งานประจำทำที่ดูไบ ไม่ว่าจะเป็นงานบริษัทหรืองานโรงแรม นายจ้างที่รับเข้าทำงาน จะทำการออก work permit และทำวีซ่าให้กับน้องๆครับ  รายได้เฉลี่ยต่อเดือนประมาณ 20,000 - 30,000 บาท โดยส่วนใหญ่งานโรงแรมจะมีสวัสดิการพวกอาหาร ที่พัก ฟรีให้ครับ

​​

ภาพการประชาสัมพันธ์ตำแหน่งงานให้นักเรียน ES DUBAI ครับ

นอกจากนี้นะครับ ในบางวันทางสถาบันเองก็จะมีการจัดทัศนศึกษาและปาร์ตี้เลี้ยงอาหารให้กับนักเรียนของสถาบัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอีกด้วยครับ เท่าที่พี่สัมผัสได้จากการมาเรียนภาษาที่ดูไบ พี่บอกเลยครับว่าทางสถาบันดูแลนักเรียนได้ดีมากๆครับน้องๆ

ในส่วนของเรื่องสภาพอากาศ ดูไบจะมี 2 ฤดูครับ คือ

ฤดูร้อน (พฤษภาคม-กันยายน) ช่วงที่ร้อนที่สุดจะเป็นช่วงสิงหาคมครับ ตอนกลางวันจะมีอุณหภูมิเฉลี่ย 40-42 องศาเซลเซียส ในบางปีเคยมีอุณหภูมิสูงถึง 48.8 องศาเซลเซียส และตอนกลางคืนมีอุณหภูมิต่ำกว่า 30 องศาเซลเซียสครับ 

ฤดูหนาว (ตุลาคม-เมษายน) ช่วงที่อากาศหนาวที่สุดคือช่วงมกราคมครับ ตอนกลางวันจะมีอุณหภูมิเฉลี่ย 23-24 องศาเซลเซียส และตอนกลางคืนมีอุณหภูมิต่ำกว่า 14 องศาเซลเซียส โดยในช่วงเดือนมกราคม กุมภาพันธ์ และมีนาคม อาจจะมีฝนตกบ้างแต่ไม่มากครับ และสภาพแวดล้อมโดยทั่วไปของเมือง ค่อนข้างเป็นระเบียบมากๆครับ แถมยังเป็นเมืองที่มีความปลอดภัยสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลกอีกด้วยครับ น้องๆ และผู้ปกครองสบายใจหายห่วงได้เลยครับ ในส่วนของค่าครองชีพนั้นไม่แพงมากครับน้องๆ ประมาณ 20,000-25,000 ต่อเดือน ขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตของน้องๆด้วยครับ ในส่วนของการเดินทางและระบบขนส่งในดูไบสะดวกสุดๆครับ ทั้งรถไฟฟ้าใต้ดินที่ขึ้นชื่อว่าเป็นระบบขนส่งมวลชนที่คุ้มค่าและทันสมัยมากๆ รถบัสประจำทาง แท็กซี่ อูเบอร์ก็มีครับ 

ต่อมาพี่ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ ของเมืองดูไบกันบ้าง บอกเลยว่าสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกหลายอย่างอยู่ที่ดูไบแห่งนี้นี่เองครับ
มาพบกับที่สุดแรกเลยก็คือ...

Burj khalifa ครับน้องๆ เป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกด้วยความสูงอยู่ที่ 828 เมตร มีจำนวนชั้นทั้งหมด 163 ชั้น สูงกว่าหอไอเฟลถึง 3 เท่าครับ โดยภายในตึกมีทั้งสำนักงาน, ร้านอาหารภัตตาคาร, คอนโด, สระว่ายน้ำแบบเอาท์ดอร์, สุเหร่า, หรือแม้แต่หอดูดาวกลางแจ้งก็มีครับ นอกจากนี้ ยังมีจุดชมวิวสูงที่สุดในโลกสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชั้น 124 และมีลิฟต์สูงที่สุดในโลกอีกด้วยครับ โดยลิฟต์มีความเร็ว 10 เมตรต่อวินาที ก็คือถ้าจะไปถึงจุดชมวิวชั้น 124 จะใช้เวลาแค่ 1 นาทีเท่านั้นเองครับน้อง แถมด้านหน้าอาคาร ยังมีน้ำพุขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วยครับ โดยจะมีการจัดแสดงน้ำพุเป็นรอบๆไป หากน้องคนไหนสนใจสามารถแวะเวียนไปดูได้เลยครับ สวยมากๆจริงๆ

Burj Al Arab (บุรญุลอะร็อบ) โรงแรมหรูระดับ 7 ดาว ขึ้นชื่อว่าเป็นโรงแรมที่หรูหราที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีลักษณะคล้ายกับใบเรือของเรือใบครับ ในสมัยก่อนที่ชาวเมืองใช้ในการขนถ่ายสินค้าในยุคที่รายได้หลักของเมืองมาจากธุรกิจเมืองท่าเชิงพาณิชย์เป็นหลัก และมีการค้นพบทรัพยากรน้ำมันในช่วงนั้นนั่นเองครับ ทำให้โรงแรงนี้เป็นเหมือนภาพแทนของจุดเปลี่ยนผ่านสำคัญที่ทำให้ประเทศกลายมาเป็นผู้มีอำนาจทางการเงิน และทรัพยากรมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก จนถูกยกให้เป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองดูไบนั่นเองครับ ภายในพี่บอกเลยว่า อลังการมากกกกกก และค่าห้องต่อคืนก็แพงมากกกก เช่นกันครับ

Palm island หรือหมู่เกาะต้นปาล์ม เป็นเกาะจำลองบริเวณอ่าวเปอร์เซียในเมืองดูไบครับ เกิดจาการถมขึ้นเป็นรูปต้นปาล์ม ถือเป็นเกาะที่ถูกสร้างโดยมนุษย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และเนื่องจากความสวยงามและความมหัศจรรย์ของเกาะแห่งนี้ จึงถูกขนานนามเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอันดับที่ 8 อีกด้วยครับ โดยหมู่เกาะต้นปาล์มนี้ประกอบไปด้วย 3 เกาะครับ ได้แก่ ปาล์มจูไมราห์ (Jumeirah), ปาล์มเดียรา (Deira), ปาล์มเจเบล อารี (Jebel Ali) นั่นเองครับ

Ain Dubai หรือ Dubai eye เป็นชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดและสูงที่สุดในโลกที่ตั้งอยู่บนเกาะบลูวอเตอร์ (Blue Waters) ใกล้กับ Dubai Marina โดยมีความสูงอยู่ที่ 250 เมตร ซึ่งวงล้อของชิงช้าดูไบแห่งนี้ ประกอบด้วยแคปซูลโดยสาร 48 แคปซูลครับ ซึ่งในแต่ละแคปซูลรองรับผู้เข้าชมได้สูงสุด 12 คน ในหนึ่งรอบจะใช้เวลาหมุนประมาณ 38 นาที น้องๆคนไหนอยากไปชมวิวมหานครดูไบ บนชิงช้าสวรรค์แห่งนี้ล่ะก็ ห้ามพลาดเลยครับ แถมชิงช้าสวรรค์แห่งนี้ยังใหญ่กว่าลอนดอนอายที่เรารู้จักกันถึง 2 เท่าเชียวครับน้องๆ

Dubai mall ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ใจกลางเมืองดูไบที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 5 ของโลก ภายในมีร้านค้า,ร้านอาหาร,โรงแรม 5 ดาวอยู่ภายในห้างด้วยครับ แหล่งรวมความบันเทิงขนาดใหญ่ทั้งโรงภาพยนตร์ ลานสเก็ตน้ำแข็งในร่มมาตรฐานระดับโอลิมปิก พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 8 ของโลก รวมถึงศูนย์รวมแบรนด์แฟชั่นสุดหรู ฯลฯ น้องๆสามารถมาเดินเที่ยว ชอปปิ้ง พักผ่อน รวมถึงทำกิจกรรมได้ตลอดทั้งวันเลยครับ เพลินมากครับน้องๆ

​Souk Madinat เป็นตลาดพื้นเมืองของดูไบครับ ซึ่งนอกจากจะเป็นบรรยากาศพื้นเมืองสไตล์อาหรับแล้วยังมีร้านค้ามากมาย ทั้งร้านเสื้อผ้า เครื่องประดับ รวมถึงของที่ระลึก น้องๆสามารถมาเดินเที่ยวพักผ่อน ชอปปิ้งซื้อของได้เลยครับ และอีกหนึ่งจุดเด่นของตลาดพื้นเมือง Souk Madinat แห่งนี้คือ ในยามค่ำคืนจะมีการจัดกิจกรรมพิเศษเช่น การแสดงละครด้วยครับน้องๆ

​เป็นไงบ้างครับน้องๆ กับสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อว่า ที่สุดของที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่มหานครดูไบแห่งนี้นี่เองครับ และนอกจากสถานที่เหล่านี้ เมืองดูไบเองก็มีสถานที่ท่องเที่ยวสุดอลังการอีกมากมายเลยครับ ทั้งสวนน้ำ สวนสนุก ลานสกีน้ำแข็งในร่มที่ใหญ่และมีมาตรฐานระดับโลก ทะเลทรายที่สวยงามน่าผจญภัย ที่รอให้น้องๆไปเยือนอยู่นะครับ 

พี่บอกได้เต็มปากเลยครับว่า การมาเรียนภาษาอังกฤษที่ดูไบนั้น ไม่เลวเลย ถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ดีมากๆของพี่เลยก็ว่าได้ครับ ได้ฝึกภาษา ได้เรียนรู้วัฒนธรรมของคนที่นี่ ได้คอนเนคชันดีๆ ได้เพื่อนต่างชาติเยอะขึ้นมากๆ และพี่ก็เชื่อว่า หากน้องๆ ได้มาเรียนที่ภาษาอังกฤษที่ดูไบ น้องๆ จะได้ประสบการณ์ดีๆ เพื่อนดีๆ มุมมองใหม่ๆ การผจญภัยใหม่ๆ วัฒนธรรมใหม่ๆ ที่น้องๆ ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนในชีวิตไม่มากก็น้อยครับ และถ้าน้องๆคนไหนที่สนใจเรียนภาษาอังกฤษที่ต่างประเทศ ลองเก็บดูไบเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการพิจารณาของน้องๆนะครับ^^ 

>>> หากน้องๆ เริ่มสนใจที่จะไปเรียนภาษาอังกฤษที่ดูไบแล้วล่ะก็ น้องๆสามารถทักไลน์แอด @goodtime-edu หรือ โทร 099-1066066 เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยน้า พี่ๆแอดมินที่น่ารักของกู๊ดไทม์พร้อมให้คำแนะนำน้องๆอยู่ครับ <<<

รายละเอียดค่าใช้จ่ายการเรียนภาษาอังกฤษที่ดูไบ

การขอวีซ่าดูไบ