ไปเรียนภาษาจีนที่เสิ่นหยางทั้งที เรียนอย่างเดียวมันก็คงจะเครียดเกินไปใช่ไหมล่ะเด็กๆ วันนี้ พี่ๆกู๊ดไทม์ได้ทำการรวบรวมสถานที่ท่องเที่ยว
ในเมืองเสิ่นหยางมาให้น้องๆได้ไปตามรอยกันจ้า ไปดูกันดีกว่าจ้าว่า จะสวยงามและน่าไปเยือนขนาดไหน ^……^

1. Shenyang imperial palace 
พระราชวังกู้กงเสิ่นหยาง หรือ พระราชวังมุกเดน (Mukden Palace) เริ่มสร้างเมื่อปี 1625 สมัยจักรพรรดิหนูเอ่อร์ฮาซื่อ ภายหลังมีการสถาปนาเสิ่นหยางเป็นเมืองหลวงปกครองประเทศจีน ได้มีการก่อสร้างเพิ่มเติมเมื่อปี 1636 โดยโครงสร้างของพระราชวังแห่งนี้ มีลักษณะผสมระหว่างสถาปัตยกรรมจีน มองโกเลียและแมนจู (คล้ายพระราชวังต้องห้ามกรุงปักกิ่ง) 
​
​พระราชวังกู้กงเสิ่นหยางนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี 2004 ร่วมกับพระราชวังต้องห้ามกรุงปักกิ่งที่ถูกขึ้นทะเบียนเมื่อปี 1987 ภายใต้ชื่อ "พระราชวังแห่งราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงในปักกิ่งและเสิ่นหยาง" (Imperial Palaces of the Ming and Qing Dynasties in Beijing and Shenyang)

2. Marshal Zhang's Mansion Museum 
พิพิธภัณฑ์คฤหาสน์ตระกูลจาง ตั้งอยู่ไม่ไกลจาก พระราชวังกู้กงเสิ่นหยาง เป็นอีกสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของเมืองเสิ่นหยาง ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1914 เป็นสถาปัตยกรรมผสมระหว่างสวนจีนโบราณและบ้านสไตล์ยุโรป บนพื้นที่ 36,000 ตารางเมตร โดยมีนายพลจางจั๋วหลิน และนายพลจางเซวียเหลียง ทั้งสองพ่อลูกถือเป็นนายทหารที่รักชาติมีส่วนสำคัญในสงครามขับไล่ญี่ปุ่น จนได้รับการจารึกในหน้าประวัติศาสตร์ 
​

3. Xita street night town (Korean town)
สาวกเกาหลี ต้องถูกใจสิ่งนี้ โคเรียทาวน์แห่งจีนเหนือ โดยถนนเส้นนี้ถือเป็นถนนที่คึกคักมากๆเลย ประกอบไปด้วย ร้านค้า Supermarket ร้านอาหารเกาหลี บาร์สไตล์เกาหลี ร้านเสริมสวย ฯลฯ เรียกได้ว่าสะท้อนวิถีชีวิต และขนบธรรมเนียมของชาวเกาหลีจนนักท่องเที่ยวต่างขนานนามถนนแห่งนี้เป็น Little Seoul ของจีนเหนือเลยทีเดียว

4. Beiling park
​เป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดของเมืองเสิ่นหยางซึ่งอยู่ทางตอนเหนือ รู้จักกันในชื่อ “สุสานเหนือ” เนื่องจากเป็นที่ตั้งของสุสานของกษัตริย์รุ่นที่สองของราชวงศ์ชิง หวงไท่อี๋ (Huang Taiji) ซึ่งในปัจจุบันได้มีการพัฒนาสวนสาธารณะแห่งนี้ขึ้นเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันสวยงามและมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศ

โดยสวนแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1643 ใช้เวลาสร้างกว่า 8 ปี ภายในประกอบด้วย ตำหนักโบราณหลายหลัง อาทิ ตำหนักหลงเอิน ตำหนักเป่าเฉิง นอกจากนี้ยังมีทิวทัศน์ต้นสน และทะเลสาบรายล้อมสวยงาม ตามความเชื่อฮวงซุ้ยของชาวจีน น้องสามารถมาเดินเล่นพักผ่อนที่สวนแห่งนี้ได้เลย ร่มรื่นมาก

5. Shenyang middle street
ถนนซึ่งได้รับการขนานนามว่า เป็นถนนสายแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ที่มีอายุยาวนานถึง 400 ปีตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง จนถึงปัจจุบัน นับเป็นถนนคนเดินย่านการค้าสายแรกๆ ในจีนที่ได้รับการพลิกโฉมใหม่ ซึ่งเน้นการตกแต่งที่ผสานวัฒนธรรมสมัยราชวงศ์ชิงและความทันสมัยได้อย่างลงตัว โดยมีการปรับปรุงด้านหน้าของอาคาร 28 หลัง รวม 78 คูหาบนถนนสายหลัก พร้อมฟื้นฟูและอนุรักษ์อาคารที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ 8 แห่ง เและคงเอกลักษณ์เฉพาะตัวเอาไว้ ทั้งร่องรอยที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์บนถนนเก่าแก่สายนี้ไว้ได้อย่างครบถ้วน

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คงรักษาร่องรอยทางประวัติศาสตร์ผสมผสานกับความทันสมัยในปัจจุบันได้เป็นอย่างดีเลยจ้า

เป็นอย่างไรบ้างครับน้องๆ กับสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองเสิ่นหยาง ที่พี่ๆ กู๊ดไทม์รวบรวมมาไว้ให้น้องๆ ได้ลองไปเที่ยวชมบรรยากาศตามสถานที่ต่างๆ น้องๆ คนไหนที่ไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ในเมืองเสิ่นหยางแล้ว อย่าลืมส่งรูปมาอวดพี่ๆ กู๊ดไทม์ด้วยน้าเด็กๆ แต่อย่าเที่ยวเพลินจนลืมไปเรียนน้าา..

​^^ แล้วเจอกันที่เสิ่นหยางนะครับน้องๆ ^^